เรื่องหนึ่งที่ผมแปลกใจมากเมื่อวันที่มาใหม่ๆ
“คนที่นี่สั่งขี้มูกเสียงดังมาก” และดูเหมือนจะไม่ถือว่า ไม่สุภาพ
เช่น เพื่อนรว่มงาน(ชาย)ผม โต๊ะตรงข้าม สั่งขึ้มุกดัง
“ปรืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
ได้ยินทั้งห้อง (ห้องสี่คน)
ตอนแรกผมงงมาก อะไรจะขนาดนั้น

พอมาอักวัน ตอนกำลังกินข้าวกันอยู่ เพื่อนร่วมงานหญิงที่นั่งติดกัน
“ปรืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

และวันนี้ ที่ร้านอาหารตอนเย็น โต๊ะข้างหลัง
“ปรืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”

อื่ม ที่นึ่คงไม่ถือกระมัง – -‘

ParisGuideBook
รูปประกบ : ครั้งแรกที่ได้ไปนั่งกินข้่่าว cafe ริมถนน
(ทำตัว Parisien เต็มที่ ฮา)

วันแรกๆที่มา ผมสงสัยมาก
ว่าทำไมหลายๆจุดที่ผมผ่านไปว่าเหม็นฉี่มากๆ…
เช่น ในสถานีรถไฟใต้ิดินบางสถานี และตามฟุตบาทบางที่
(ผมว่ามันเหม็นแบบไม่ต้องสังเกตอะไรมากมาย มันลอยมาสะกิดจมูกเองเลย)

ห้องน้ำสาธารณะที่ทำความสะอาดตัวเองได้ของปารีส (self-sanitizing public toilets)
ที่มีอยู่ 200 กว่าที่ (ข้อมูลต้นปี 2006)
เพิ่งเปิดให้ใช้ฟรีตั้งแต่ วันที่ 1 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 นี่เอง

Paris Public Toilet

รูปประกบ : ห้องน้ำสาธารณะ ที่ปารีส

ก่อนหน้านั้นจะเก็บค่าบริการ 0.40 Euros หรือประมาณ 20 บาท / ครั้ง
หลังจากวันดังกล่าว รัฐบาลฝรั่งเศสจะเป็นผู้ออกตังให้เอง
โดยจะจ่ายให้ บ. ที่บริหารงาน 0.17 Euros/ครั้ง

“นักท่องเที่ยวมีเงินพอที่จะจ่าย” ่นี่เป็นการทำ “เพื่อทุกคน”
โดยเฉพาะคนไร้ที่อยู่ (homeless) ที่เค้าจะมีโอกาสได้ใ้ช้ห้องน้ำในระหว่างวัน
รัฐบาลเึค้าว่างั้น

อ่านมาถึง ตรงนี้ผมเลยพอเข้าใจหละ เหอๆ

————————————————————————

แถม ข้อมูลอ่านเอามันส์ :
ฝรั่งเศสจัดเป็นประเทศอันดับต้นๆ ที่นักท่้องเที่ยวจากทั่วโลกอยากมาเที่ยว
ในปี 2005 มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกกว่า 75 ล้านคน !
แบบนี้ยอมลงทุนทำบ้านเมืองให้สะอาดขึ้นอีกหน่อย
ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับผม !

ที่มาข้อมูล :
http://www.usatoday.com/travel/destinations/2006-01-26-paris-toilets_x.htm

Bonjour !!

June 3, 2007

การกล่าวคำทักทายเมื่อเจอหน้ากัน ดูจะเป็นเรื่องสามัญสำหรับคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า เจอกันครั้งแรก หรือคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้ว เจอกันในลิฟต์ เดินสวนกันบนทางเดินริมถนน หรือวิ่งจ๊อกกิ้งสวนกันในปาร์ค ผู้คนยินดีที่จะกล่าวทักทาย

“Bonjour !!”

บงชูร์ มาจากสองคำคือ bon (good) และ jour (day) ที่มีความหมายรวมกันว่า Have A Good Day หรือ แต่ทั่วไปก็ใช้เป็น Hello โดยไม่ต้องตีความก็ยิ้มกลับแล้วทักตอบได้เลยว่า บงชูร์ เช่นกัน

Paris!

กะเรนอย่างเรา ลอบเข้าปารีครั้งแรก ไม่รู้จะออกเสียงอย่างไร บอนชูร์/บองชูร์/โบนชูร์/โบงชูร์/บงชูร์ เลยทักทายงึมงัมๆ จนคนปารีเซียงทำหน้างง ว่าพูดภาษาจากดาวไหน เปิดโลนลี่แพลนเน็ต ได้ความว่า ตัว n กับ m ต้องทำเสียงนาสิกขึ้นจมูก สันจมูกกะเรนไม่ใหญ่โตเหมือนปารีเซียง เลยลากเสียงขึ้นจมูกไม่ได้สักที

อาศัยพูดบ่อยๆ แล้วฉีกยิ้มกว้าง หลังๆ ปารีเซียงก็เริ่มจะฟังเราออก

“บงชูร์”